การเปลี่ยนแปลงกฎทรงผมของนักเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร
การเปลี่ยนแปลงกฎทรงผมของนักเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย มุกดาหาร
ทำไมแคมเปญรณรงค์นี้ถึงมีความสำคัญ
เนื่องจากในระยะเวลาที่ผ่านมา ทางโรงเรียนมีกฎให้นักเรียนทุกคนต้องไว้ทรงนักเรียนแต่ทางผู้จัดทำต้องการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของนักเรียนกลับมา จากการที่โรงเรียนกล่าวอ้างว่าการไว้ผมสั้นคือเอกลักษณ์ หรือวัฒนธรรมของโรงเรียน แต่นั่นเป็นการริดรอนอิสระหรือความเป็นเสรีภาพของนักเรียน อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นการคงไว้ซึ่งความเป็นอำนาจนิยมในโรงเรียน
ซึ่งอำนาจนิยมนั้นมีความขัดแย้งกับประชาธิปไตยที่โรงเรียนต้องการสร้าง ยกตัวอย่างจากการเลือกตั้งประธานนักเรียนแต่การที่มีกฎดังกล่าวอยู่ไม่ได้แสดงถึงความเป็นประชาธิปไตยตามที่โรงเรียนต้องการจะสร้าง ซ้ำร้าย อำนาจนิยมยังเป็นการปลูกฝังเผด็จการในตัวเด็กนักเรียน
โรงเรียนพยายามที่จะผลักดันให้โรงเรียนสามารถก้าวขึ้นไปสู่โรงเรียนชั้นนำระดับนานาชาติแต่โรงเรียนชั้นนำในประเทศหรือต่างประเทศนั้นไม่มีกฎระเบียบที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชนเพราะโรงเรียนอื่นๆให้ความเคารพและอิสระกับนักเรียนซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่นักเรียนควรได้รับและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
หากจะอ้างว่า "นักเรียนทั้งหลายได้ยอมรับข้อตกลงระเบียบว่าด้วยเรื่องทรงผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากการเซ็นยินยอมก่อนเข้ารับการศึกษา" เป็นเหตุผลที่ไม่มีน้ำหนักเพียงพอต่อการปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าว เพราะไม่มีกฎใดที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างถาวร กฎของสถานที่นั้นๆจะเปลี่ยนไปตามบรรทัดฐานที่ขัดเกลามาจากความคิดและค่านิยมเสียงข้างมากของผู้ที่อาศัยอยู่ในสังคมนั้นๆ
ซึ่งผู้จัดทำต้องการให้นักเรียนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือตัดสินใจในการไว้ทรงผมของตัวเองไม่ว่าจะสั้นหรือยาวเพื่อเป็นการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย และต้องการให้คณะผู้บริหารและบุคลากรของโรงเรียนคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่นักเรียนพึงมี
แคมเปญประสบความสำเร็จ
การรณรงค์สำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีผู้สนับสนุนจำนวน832คนแชร์แคมเปญรณรงค์นี้
ผู้มีอำนาจตัดสินใจ
- นายชาตรี ประดุจชนม์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา