#SaveHakeem การปกป้องสิทธิผู้ลี้ภัยหนึ่งคน คือการยืนยันหลักการสิทธิมนุษยชนเพื่อปกป้องผู้ลี้ภัยซึ่งล้วนเป็นเพื่อนมนุษย์ทั้งหมด ทั้งในวันนี้และอนาคต 

เรื่องนี้จบช้ามากเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ของ Rahaf หญิงวัยรุ่นชาวซาอุก่อนหน้า ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะหลายคนคิดว่าทางสโมสรฟุตบอลและทางการออสเตรเลียคงจัดการเองได้ ที่สุดแล้วกลายเป็นว่าเหยื่อรายล่าสุดของความถดถอยด้านสิทธิมนุษยชนถูกจำคุกมาแล้วกว่าสองเดือน และเราเหลือเวลาอีกไม่กี่วันที่จะช่วยชีวิตมนุษย์อีกคนในขณะที่ยังช่วยได้

อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน “ฮาคีม อัล อาไรบี” เป็นผู้ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียและเซ็นสัญญาเล่นให้กับทีมสโมสร พาสโค เวล เอฟซี ตั้งแต่ปี 2017 เขาถูกทางการไทยควบคุมตัวตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2018 ขณะเดินทางจากออสเตรเลียมาฮันนีมูนกับภรรยา โดยประเทศบาห์เรนได้ประสานทางการไทยให้กักตัวไว้ ระหว่างตรวจสอบคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เขาถูกขังในคุกไทยจนครบสองเดือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ฮาคีมมีน้องชายที่สนับสนุนกลุ่มต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในช่วงอาหรับสปริง เขาเคยเปิดเผยเรื่องการซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หลังถูกกล่าวหาว่าร่วมทำลายสถานีตำรวจทั้งที่ในเวลาที่กล่าวหานั้นเขากำลังแข่งขันในแมทช์ที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ คำตัดสินจำคุก 10 ปีมีขึ้นในขณะที่เขากำลังเล่นให้ทีมชาติเยาวชนอยู่นอกประเทศ จึงได้ลี้ภัยสู่ปลายทางที่ประเทศออสเตรเลีย

ขณะนี้รัฐบาลออสเตรเลียกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้ฮาคีมสามารถเดินทางกลับประเทศที่ซึ่งเป็นบ้านของเขามาตั้งแต่ปี 2014 จนได้สถานะผู้ลี้ภัยในปี 2017 ประชาคมโลกกำลังเฝ้ามองเหตุการณ์นี้เพื่อดูว่าไทยจะทำการละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงในการส่งตัวผู้ลี้ภัยไปยังประเทศที่ไม่ปลอดภัยเหมือนที่เคยเกิดขึ้น ด้วยการส่งตัวฮาคีมให้บาห์เรนหรือไม่ ฮาคีมเชื่อว่าเขาจะถูกซ้อมทรมานอย่างทารุณอีกครั้งหากถูกส่งตัวไปบาห์เรน (สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสองวันแรกของสามเดือนที่ถูกขังก่อนประกันตัว คือเขาถูกมัดและทุบตีที่ใบหน้าและขาทั้งสองข้าง สลับกับการเอาน้ำเย็นราด พร้อมขู่ว่าเขาจะไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้อีกเลย)

ขณะนี้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ส่งจดหมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอร้องให้ไทยพิจารณาปล่อยตัวฮาคีมคืนสู่ออสเตรเลีย และทางประธาน FIFA ส่งหนังสือประสานเพื่อขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีโดยด่วนเพื่อเรียกร้องให้ไทยเคารพกติกาสิทธิมนุษยชนและปฏิเสธการส่งตัวฮาคีม(ซึ่งได้รับสถานะผู้ลี้ภัยและผู้พำนักถาวรของออสเตรเลียแล้ว)ให้บาห์เรน

ผู้คนในวงการฟุตบอลต่างออกมาเรียกร้องการมีส่วนร่วมเรียกร้องอิสรภาพให้ฮาคีมในครั้งนี้ เพราะฟุตบอลในปัจจุบันถือเป็นกีฬาที่มีกติกาบนความเสมอภาคและเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อีกทั้งเปิดกว้างสำหรับผู้คนในทุกภูมิหลัง สโมสรต่างๆก็มีนักเตะเป็นผู้ลี้ภัยมากมาย หากสโมสร นักบอล และแฟนบอลไม่ร่วมกันปกป้องสิทธิมนุษยชน สปิริตของฟุตบอลจะสูญหายไป

ภายในวันศุกร์นี้อัยการสูงสุดของไทยจะมีคำวินิจฉัยว่าจะส่งตัวฮาคีมให้บาห์เรนตามคำขอหรือไม่ ขอเชิญชวนให้นักฟุตบอลและแฟนบอลทั้งหลายที่มีอยู่มากมายในประเทศไทย รวมถึงผู้คนที่รักความเป็นธรรม ได้ร่วมกันเข้าชื่อรณรงค์ในแคมเปญนี้อย่างเร่งด่วน และแสดงออกด้วยการถ่ายภาพและติดแฮชแทค #SaveHakeem

ให้โลกเห็นว่าเราไม่ได้นิ่งเฉยกับความอยุติธรรมที่อยู่ตรงหน้า ให้เป็นบรรทัดฐานเพื่อมนุษยธรรมต่อไป ทุกเสียงของทุกคนจะช่วยเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้