เรียกร้องให้โรงพยาบาลเอกชนคืนเงินแก่ลูกค้าผู้จองวัคซีนโมเดอร์นาที่ไม่ต้องการรอฉีดอีกต่อไป

เรียกร้องให้โรงพยาบาลเอกชนคืนเงินแก่ลูกค้าผู้จองวัคซีนโมเดอร์นาที่ไม่ต้องการรอฉีดอีกต่อไป

สร้างแล้ว
4 ตุลาคม ค.ศ. 2021
กำลังอยู่ระหว่างการรณรงค์
นายกรัฐมนตรี และ
ผู้สนับสนุน 12,280เป้าหมายต่อไป 15,000
เข้าร่วมสนับสนุนเดี๋ยวนี้

ทำไมแคมเปญรณรงค์นี้ถึงมีความสำคัญ

สร้างโดย Krishna Namdokmai

อาศัยเงินกว่า 6,500 ล้านบาทของประชาชนผู้เดือดร้อนจากสถานการณ์โรคระบาดที่ต้องการวัคซีนอย่างเร่งด่วน
ในขณะที่ผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนออกเงินซื้อวัคซีน แต่กลับได้กำไรจากการให้บริการฉีดรวมกันมากกว่า 2,000 ล้านบาท
---------------------------
และด้วยการดำเนินงานส่งมอบวัคซีนที่ล่าช้า
ในฐานะที่รพ.เอกชนเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับประชาชน
จึงขอเรียกร้องให้ทางรพ.เอกชนเปิดให้ผู้บริโภคแจ้งความประสงค์สามารถขอเงินคืนได้
และจะต้องแจ้งกำหนดการเข้ารับวัคซีนอย่างชัดเจนแก่ผู้ที่ประสงค์ต้องการรอวัคซีนต่อไปด้วย
ซึ่งการเรียกร้องดังกล่าว หวังอย่างยิ่งจะเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม
เพราะไม่ใช่หน้าที่ของผู้บริโภคที่จะต้องไปเร่ขายวัคซีนกันเอาเอง
และผู้ที่รอวัคซีนก็จะได้เข้ารับวัคซีนได้เร็วขึ้นเมื่อลำดับคิวก่อนหน้าว่างลง
----------------------------
ย้อนไปเมื่อกลางปี 64 ในช่วงเวลาที่รัฐบาลบริหารจัดการวัคซีนฟรีได้ไม่เพียงพอ
ประชาชนจำนวนมากตัดสินใจจ่ายเงินเข็มละ 1,650 บาท
เพื่อจองวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นากับทางโรงพยาบาลเอกชน
ที่มีองค์การเภสัชกรรมเป็นผู้จัดซื้อมาจากบริษัทเอกชนผู้นำเข้า
โดยได้แจ้งต่อประชาชนอย่างชัดเจนว่าจะได้รับมอบวัคซีนโมเดอร์นา
จำนวน 4 ล้านโดสก่อนสิ้นปี 64 และอีก 1 ล้านโดสในต้นปี 65
และไม่เคยปรากฎว่ามีโควต้าส่วนหนึ่งเป็นของสภากาชาดไทยมาก่อน
ทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าใจว่าวัคซีนจำนวน 5 ล้านโดสจะเป็นของผู้บริโภคที่ยอมจ่ายเงินเท่านั้น

ซึ่งในวันเซ็นสัญญาซื้อ-ขายเมื่อ 23 กรกฎาคม 64 ก็มีนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนเป็นสักขีพยานด้วย
แต่ทางนายกสมาคมฯ ไม่เคยออกมาชี้แจงประเด็นตัวเลขส่งมอบที่ลดลง ทั้งที่ทราบเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอดตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม
อีกทั้งโรงพยาบาลเอกชนที่เปิดจอง ได้ออกคำแนะนำให้ไปฉีดวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ โดยไม่ต้องรอโมเดอร์นา
และไม่ได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถขอเงินคืนได้แต่อย่างใด
ซึ่งปัจจุบันได้มีแถลงการณ์ชัดเจนแล้วว่าวัคซีนโมเดอร์นาจะเลื่อนส่งมอบไปเป็นเดือนพฤศจิกายนและเหลือเพียง 1.9 ล้านโดสก่อนสิ้นปี
จึงไม่เป็นไปตามที่นายกสมาคมฯ หรือโรงพยาบาลเอกชนต่าง ๆ
เคยแจ้งเอาไว้ว่าสามารถเริ่มฉีดได้ภายในเดือนตุลาคม
และตัวเลขส่งมอบที่องค์การเภสัชกรรมเคยแจ้งไว้หายไปมากกว่าครึ่ง
ส่งผลกระทบต่อประชาชนประชาชนจำนวนมากถูกเลื่อนคิวฉีดไปปีหน้าอย่างไม่มีกำหนดใด ๆ ชัดเจน

เพราะฉะนั้นตามที่กฎหมายได้คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคเอาไว้อย่างชัดเจนและเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์โควิด-19
จึงขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องที่มีบทบาทและอำนาจการตัดสินใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลเอกชนที่เรียกเก็บเงินประชาชนไปกว่า 3 เดือนแล้ว
ให้ดำเนินการเปิดช่องทางเพื่อให้ประชาชนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานที่ผิดพลาดนี้
สามารถแจ้งความประสงค์ขอรับเงินที่ชำระไปแล้วคืนโดยไม่มีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมใด ๆ ได้ในทันที
โดยต้องคืนเงินให้แก่ลูกค้าภายใน 15 วัน ผ่านบัญชีธนาคารที่มีระบุไว้ในระบบ
และทางโรงพยาบาลจะต้องแจ้งกำหนดการเข้ารับวัคซีนอย่างชัดเจนแก่ผู้ที่ประสงค์ต้องการรอวัคซีนต่อไป
ซึ่งหากไม่สามารถจัดสรรให้ได้ฉีด ทางโรงพยาบาลต้องเปิดโอกาสขอคืนเงินแก่ผู้เสียโอกาสเข้ารับวัคซีนตามกำหนดด้วยเช่นกัน

กระผมกฤษณะ น้ำดอกไม้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและแอดมินเพจ " ชาติไหนจะได้ฉีดโมเดอร์นา " และ กลุ่มสนทนาลูกค้าโรงพยาบาลเครือ BCH
ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนแคมเปญรณรงค์นี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม
และให้เป็นบทเรียนแก่ผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภคเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคตสืบต่อไป

เข้าร่วมสนับสนุนเดี๋ยวนี้
ผู้สนับสนุน 12,280เป้าหมายต่อไป 15,000
เข้าร่วมสนับสนุนเดี๋ยวนี้
แชร์แคมเปญรณรงค์นี้ด้วยตัวคุณเองหรือใช้รหัสคิวอาร์นี้ในสื่อของคุณดาวน์โหลดรหัสคิวอาร์

ผู้มีอำนาจตัดสินใจ