ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ เราทุกคนกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งมีแนวโน้มจะแย่ลงทุกปีๆ ส่งผลให้อากาศเลวร้ายเกินกว่าจะหายใจ ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่หลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ที่ประชาชนต้องรับมือกับวิกฤติฝุ่นพิษมานานเกิน 15 ปีแล้ว โดยกรุงเทพมหานครและเชียงใหม่ได้สลับกันติดอันดับเมืองใหญ่ที่มีคุณภาพอากาศย่ำแย่ที่สุดในโลกหลายต่อหลายครั้ง จนกล่าวได้ว่าเราทุกคนกำลังจะเข้าใกล้สู่ภาวะของการ “ขาดอากาศหายใจ”

ถ้าเราไม่อยากให้ลูกหลานเติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษที่ถือว่าเป็นมัจจุราชเงียบซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและบั่นทอนคุณภาพชีวิตของเราและคนที่เรารัก…รอกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!!! ตอนนี้!!! วันนี้!!! เราต้องทำอะไรสักอย่าง

อากาศสกปรก เป็นผลลัพธ์ของกิจกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเผาไหม้ในที่โล่ง ไอเสียจากรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ฯลฯ

ถามว่าในปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายใดที่กำกับ ควบคุมและดูแลบริหารปัญหามลพิษทางอากาศอย่างเบ็ดเสร็จไหม? ตอบได้ว่า ไม่มี

เรามีพ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ แต่สำหรับมลพิษที่เป็นมัจจุราชเงียบและเยือกเย็น ซึ่งได้ส่งผลต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชาชนในประเทศไทยกว่า 32,000 ราย ในปีพศ. 2562 และยังส่งผลให้อายุขัยโดยเฉลี่ยของประชากรลดลงกว่า 2 ปี แต่ประเทศไทยกลับยังไม่มีกฎหมายที่จะมาควบคุมและบริหารจัดการเรื่องนี้อย่างบูรณาการและยั่งยืน ส่วนกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็ไม่เพียงพอ แถมยังกระจัดกระจายอย่างมาก ขาดหลายๆ ประเด็นที่สำคัญ เนื่องจากไม่แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของปัญหานี้

ดังนั้น ทุกวันนี้ เราถึงมีปัญหาอย่างมากในการปฏิบัติ เพราะปัญหามลพิษทางอากาศไม่ได้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานเดียวกัน เช่น การจับรถที่มีควันดำเกินมาตรฐาน ก็ไม่มีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเบ็ดเสร็จ การอนุมัติการก่อสร้างโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการขาดข้อมูลสิ่งแวดล้อมและสารอันตรายจากภาคอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ครบวงจร ทำให้ปราศจากข้อมูลในการควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม

ดังนั้น การดูแลและมอบ “อากาศสะอาด” ให้กับประชาชนจึงมักถูกผลักความรับผิดชอบกันไปมาราวกับเผือกร้อนที่ไม่มีหน่วยงานไหนอยากจะเก็บไว้กับตัว!!!

วิธีเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นพิษและคนไทยมีอากาศสะอาดหายใจอย่างยั่งยืน คือ สนับสนุนให้มี “Clean Air Act Thailand หรือ กฎหมายอากาศสะอาด” 

เราในฐานะ เครือข่ายอากาศสะอาด ประเทศไทย หรือ Thailand CAN ได้รวมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาข เช่นแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษทางอากาศ นักเศรฐศาสตร์ นักกฎหมายสิ่งแวดล้อม นักสื่อสารมวลชนฯลฯ ร่วมกับนักเคลื่อนไหวทางสังคม องค์กรพันธมิตร และประชาชนที่สนใจ มาอาสาคิดและลงมือทำ จนได้ ร่าง ‘กฎหมายอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ’ ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติ แบบครบวงจร สำหรับทุกภาคส่วน เรียกได้ว่า ทำตามนี้ การันตี อากาศดีๆ มีให้หายใจทุกวันแน่นอน ร่างพรบ.ฉบับนี้ ซึ่งมีชื่อเต็มว่า “พ.ร.บ. กำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ พ.ศ. …”

เครือข่ายได้ผลิตคลิปวีดีโอสั้นๆ ที่อธิบายกลไกหลักๆของร่างพรบฉบับนี้อย่างเข้าใจได้ง่ายมาก https://www.youtube.com/watch?v=WA7tlYSwxwI&t=62s

อย่างไรก็ตาม ยังเหลือการพิจารณาและประกาศจากรัฐสภาให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ออกเป็นกฎหมายอย่างครบถ้วน เกิดขึ้นได้จริง! ซึ่งจะเกิดขึ้นหรือไม่ พวกเราเป็นผู้ตัดสิน!

ปัจจุบันทางเครือข่ายอากาศสะอาด ได้รับรายชื่อสนับสนุนร่างพรบ.อากาศสะอาด จากประชาชนชาวไทยถึงกว่า 26,000 คน ซึ่งเพียงพอที่จะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าไปสู่สภาฯ ในวันที่ 21 ม.ค. 2565 แต่คงไม่เพียงพอที่จะรับประกันว่าร่าง พ.ร.บ.จะไม่ถูกนายกปัดตกก่อนการพิจารณาจากทางสภาฯ เพราะที่ผ่านมา ร่างกฎหมายทำนองนี้ ถูกนายกรัฐมนตรี ปัดตกมาหลายร่างแล้ว โดยใช้อำนาจภายใต้พ.ร.บ.การเงิน แต่นายกฯ ไม่ได้ให้เหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงปัดตก ดังนั้นเรายังต้องการเสียงสนับสนุนมากกว่านี้ เพราะประเทศไทยมีเจ้าของจมูกเกือบ 70 ล้านจมูก ที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นมาแสดงพลังในการปกป้องสิทธิของตนเพื่อหายใจอากาศสะอาด ซึ่งสุดท้ายแล้ว นี่คือสิทธิของการมีชีวิตของเราทุกๆ คน

ขอแค่หนึ่งเสียงของคุณ ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญนี้ผ่าน Change.org/CleanAirActTH และบอกต่อเพื่อนๆ มากที่สุด ผ่านทุก social media พร้อมติด hashtags #อย่าปัดตกพรบอากาศสะอาด #ThailandCAN เพราะนี่จะเป็นกระบอกเสียงสำคัญเพื่อช่วยยันไม่ให้ร่างพรบ.อากาศสะดาดฉบับนี้ โดนปัดตกอย่างไม่แยแส

อากาศสะอาดเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเราทุกคน

อากาศที่เราหายใจ หากเราไม่ปกป้อง ใครจะปกป้องให้เรา

English translation

It is undeniable that we are now facing an air pollution crisis with particulate matter at levels exceeding limits that are deemed safe for human health.  This situation is likely to deteriorate over the years.  The situation of toxic air quality is not just an issue in Bangkok, but across the country, particularly in Northern Thailand where residents there have been suffering for over the past 15 years.  Bangkok and Chiang Mai have taken turns for the unenviable rank as being the top city in the world for toxic air quality.  The dire state of this situation may actually lead us to a state where we may well be “short of air to breathe.”

If we do not want our children and grandchildren to be brought up in an environment laced with toxic air - an invisible killer that rips away at our quality of life and that of our love ones.  We can no longer wait.  We must take action right now and today! We need to do something!

Unclean air is the result of human activities, be it open burning, vehicle emission, industrial pollution, etc.

Does Thailand have any legislation for regulate, manage and oversee the problem of air pollution in an integrated matter?  The answer is no.

Thailand has a Water Resources Act.  However, when it comes to air pollution which is an invisible killer that has caused over 32,000 deaths in Thailand in 2019, and reduced average life expectancy of Thais by over 2 years, Thailand does not have a Clean Air Act to regulate and manage this public health risk in a systemic and sustainable manner.  The existing legislations in place are insufficient, extremely scattered and inadequate in so many other aspects, with the critical shortfall being that they do not deal with the underlying structural issue, which is the very heart of this problem.

Therefore, today we continue to face implementation issues as the responsibility to manage air pollution does not fall under the responsible of any single government body.  At present, there is no one entity that is fully responsible to say regulate smoke belching vehicles on the road.  Furthermore, approvals for building construction are being undertaken without taking into account environmental considerations.   Industrial emissions remain a massive problem.  This is because of the lack of emission inventory that includes emissions of toxic pollutants being discharged from industrial factories into the atmosphere.

As such, the duty to manage “clean air” for us all is viewed as a hot potato that gets tossed from one governmental agency to another, without there being a single governmental body wanting to take full responsibility for this role.

The only way to help resolve the air pollution crisis and to enable Thais have to clean air to breathe is that we need to support a Clean Air Act for Thailand.

The Thailand Clean Air Network (or Thailand CAN) is formed by academics and professionals with cross-disciplinary backgrounds that include medical doctors, air pollution specialists, economists, environmental lawyers, mass communication experts, amongst others.  Thailand CAN also includes social activists, strategic partners, as well as, ordinary citizens of all walks who have joined us in volunteering for this cause.  Our joint efforts have led to the development of Clean Air Act for Health.  This draft legislation includes implementation measures that are integrated for every governmental entity.  In other words, when fully implemented, this legislation will guarantee that we will have clean air to breathe every single day.  The full name of this draft legislation is the “Act to Regulate the Integrated Management of Clean Air for Health B.E. …” 

Thailand CAN has developed this short video that explains concisely the key features of this draft legislation https://www.youtube.com/watch?v=WA7tlYSwxwI&t=62s

However, this draft legislation must still be deliberated and then promulgated into law.  This is possible!  Whether it happens or not, it is entirely up to each and every one of us.

Thailand CAN has received over 26,000 signatories from Thai citizens in support of this draft Clean Air Act.  This is above the required number needed to submit this draft legislation to Parliament, which took place on 21 January, 2022.  However, this level of public support is not enough to ensure that this draft legislation will not be rejected by the Prime Minister even before it is deliberated in Parliament.  Previous draft legislations submitted of similar manner have been rejected by the Prime Minister without any reasons cited.  Therefore, we need a groundswell of public support.  Thailand has almost 70 million people who all need to breathe clean air.  However, most of whom have not showed up to exercise their right to protect their right to breathe clean air, which is inherently simply the very right to life itself.

We only ask that you please consider supporting this petition Change.org/CleanAirActTH  and please tell as many of your friends and family to do the same by posting on your social media channels using the hashtags #DoNotRejectThaiCleanAirAct #ThailandCAN.  You have a critical role to help support and ensure that this draft Clean Air Act will not be thoughtlessly rejected.